ซง จุง-กี
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
| ซง จุง-กี | |
|---|---|
ซง จุง-กีในงานสไตล์ไอคอนเอเชีย 2016
| |
| เกิด | 19 กันยายน พ.ศ. 2528 แทจ็อน ประเทศเกาหลีใต้ |
| สัญชาติ | เกาหลี |
| อาชีพ | นักแสดง พิธีกร |
| ปีปฏิบัติงาน | 2551–ปัจจุบัน |
| ตัวแทน | SidusHQ (2551–2556) Blossom Entertainment (2556–ปัจจุบัน) |
| เป็นที่รู้จักจาก | จุง-กี จาก รันนิ่งแมน 2553–2554 ยู ชี-จิน จาก ชีวิตเพื่อชาติ รักนี้เพื่อเธอ |
| ส่วนสูง | 1.78 เมตร (5 ฟุต 10.1 นิ้ว) |
| ชื่อเกาหลี | |
| ฮันกึล | 송중기 |
| ฮันจา | 宋仲基 |
| RR | Song Jung-gi |
| MR | Song Chung-gi |
ซง จุง-กี (เกาหลี: 송중기; เกิด 19 กันยายน พ.ศ. 2528) เป็นนักแสดงชาวเกาหลีใต้ เริ่มมีชื่อเสียงจากการแสดงซีรีส์ย้อนยุคเรื่อง บัณฑิตหน้าใส หัวใจว้าวุ่น และจากการเป็นพิธีกรรายการปกิณกะบันเทิงรันนิ่งแมน ซงได้แสดงบทนำในซีรีส์เรื่องแรกของเขาในปี 2555 คือ The Innocent Man และยังได้แสดงภาพยนตร์ที่ทำรายได้อย่างสูงเรื่อง วูฟบอย[1]
ภายหลังจากปลดประจำการ เขาได้รับบทนำในซีรีส์ที่ได้รับความนิยมไปทั่วเอเชีย เรื่อง ชีวิตเพื่อชาติ รักนี้เพื่อเธอ ซีรีส์เรื่องดังกล่าวได้รับความนิยมสูงมาก โดยได้รับเรตติงในตอนจบทั่วประเทศสูงถึง 38.8% และในเขตเมืองหลวง 41.6% จากข้อมูลของเนลสัลเกาหลี[2] จากความนิยมที่พุ่งสูงขึ้นทั่วทั้งเกาหลีและเอเชีย ทำให้เขามีชื่อเสียงในระดับฮันรยู[3]
เนื้อหา
[ซ่อน]ชีวิตช่วงแรก[แก้]
เมื่อตอนที่ซง จุง-กีเรียนอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นเขาได้เข้าแข่งขันวิ่งสเกตแทร็กระยะสั้นระดับประเทศ โดยเป็นตัวแทนของแทจ็อน ซงมีส่วนร่วมในการแข่งขันระดับชาติถึงสามครั้งและชนะเลิศในการแข่งขันกีฬารายการใหญ่ ในปีแรกของการศึกษาในชั้นมัธยมปลาย อย่างไรก็ตาม เขาก็ได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นเขาก็ต้องออกจากวงการกีฬา เพราะฉะนั้นเขาจึงให้ความสนใจในเรื่องการเรียนของเขา ต่อมาซงก็ได้แสดงละครในบทบาทของนักสเกตน้ำแข็งทีมชาติในซีรีส์เรื่อง Triple
เพราะความที่เขามีบุคลิกลักษณะเป็นคนขี้อาย พ่อแม่ของเขาจึงส่งเขาเข้าไปเรียนในชั้นเรียนต่าง ๆ ประกอบไปด้วย ชั้นเรียนการแสดง เพื่อที่จะเพิ่มพูนทักษะทางด้านการเข้าสังคมของเขา ในระหว่างที่เขาศึกษาอยู่ชั้นปีที่สองในมหาวิทยาลัย ในสาขาบริหารธุรกิจที่เขาเรียน การเรียนของเขาก็เริ่มมีปัญหาเมื่อตอนที่เขาเข้าสู่การแสดงอย่างจริงจัง เขาปรากฏตัวครั้งแรกในวงการโทรทัศน์ในฐานะเป็นผู้เข้าแข่งขันในรายการ Quiz Korea ของช่องเคบีเอส และได้เข้าไปถึงรอบสุดท้าย (แต่ไม่ได้เป็นผู้ชนะ) และเขายังเป็นแบบขึ้นปกในนิตยสาร College Tomorrow
อาชีพ[แก้]
ซงเริ่มต้นงานด้านการแสดงในปี 2551 ในภาพยนตร์แนวพีเรียตเรื่อง อำนาจ ราคะ ใครจะหยุดได้ (A Frozen Flower) ในปีต่อมาเขาก็ได้ปรากฏตัวในภาพยนตร์เกี่ยวกับหนังสั้น 5เรื่อง หลากรสเกี่ยวกับความรักแนวอีโรติคเรื่อง สัมผัสรัก ร้อน ซ่อน เร้น (Five Senses of Eros) และต่อด้วยการได้รับบทบาทเล็ก ๆ ที่ไม่ใช่ตัวละครสำคัญในเรื่อง Triple และ อธิษฐานรัก ณ ปลายหนาว นอกจากนี้ เขายังได้เป็นพิธีกรประจำในรายการเพลงวันศุกร์ของช่องเคบีเอสในรายการ มิวสิกแบงก์ ปี 2552 ถึงปี 2553 และเป็นสมาชิกในรายการปกิณกะบันเทิงทางช่องเอสบีเอส ในรายการ รันนิ่งแมน ปี 2553 ถึงปี 2554 ภายหลังจากได้แสดงละครเกี่ยวกับการแพทย์ในปี 2553 เรื่อง OB/GYN Doctors,[4] และภาพยนตร์เกี่ยวกับสัตว์เรื่อง Hearty Paws 2,[5] ซงได้เขียนหนังสือ Beautiful Skin Project ซึ่งเป็นหนังสือขายดีเกี่ยวกับสุขภาพและความงามสำหรับผู้ชาย[6] ในที่สุดบทบาทเกี่ยวกับผู้มั่งคั่งในศตวรรษที่ 18 ของสมัยโชซอน เพลย์บอยในเรื่อง บัณฑิตหน้าใส หัวใจว้าวุ่น (Sungkyunkwan Scandal) ทำให้ซงเฉิดฉายความเป็นดาราพร้อมกับนักแสดงหนุ่มสาวในเรื่องนี้[7][8]
ในปลายปีพ.ศ. 2553 ซง จุง-กี ได้ขี่รถจักรยานเดินทางไปรอบ ๆ ซิดนีย์, ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งออกอากาศสองตอนทางโทรทัศน์ในรายการ ELLE at TV 'Star Velo[ต้องการอ้างอิง] และได้มีการถ่ายแฟชั่นให้กับนิตยสาร ELLE ด้วย[9] ยิ่งกว่านั้น ทีวีสเปเชียลของจุง-กี ทริปที่ไปญี่ปุ่นก็ตั้งชื่อว่า I'm Real: Song Joong-ki ออกอากาศเป็น 2 พาร์ทในช่วงต้นปี 2554[10] ในปี 2554 ซง จุง-กีได้รับบทบาทเป็นพิธีกรในรายการออดิชัน 'Made in U'[11]
ซงได้รับบทบาทเป็นหนุ่มตกงานและหนีหนี้ในภาพยนตร์โรแมนติกคอมมิดีแห่งปี 2554 เรื่อง หนุ่มหน้าใสกับยายจอมงก (Penny Pinchers)[12][13] การแสดงของเขาเรียกว่าเป็นไปได้อย่างไหลลื่นจาก ตลกโปกฮาสู่การแสดงอย่างมีเสน่ห์ดึงดูด, เป็นหนุ่มหล่อเสน่ห์แรงจนสาว ๆ ยอมสลบให้กับการมีพัฒนาการของเขาอย่างต่อเนื่อง[14] ถึงแม้ว่าเขาจะปรากฏตัวในละครเรื่อง Deep Rooted Tree เพียงแค่ 4 ตอน แต่นักวิจารณ์ก็ได้ชื่นชมจากการที่เขาแสดงเป็นพระเจ้าเซจงมหาราชในวัยเด็ก โดยเรียกว่าการแสดงของอัจฉริยะผู้ซึ่ง "เข้าใจการไร้ประโยชน์ของอำนาจในช่วงต้นของชีวิต" และซุกซ่อนปกปิดในหนังสือของเขาเพื่อจัดการกับการพัฒนาขึ้นภายใต้อำนาจของทรราชย์ พระเจ้าแทจง พระบิดา[15][16]
จากรายการของช่องเอ็มบีซี รายการ Tears of the Earth ซึ่งเจาะลึกเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมบนโลกใบนี้ ซง จุง-กีได้บรรยายสารคดีเรื่อง Tears of the Antarctic 6 ตอน โดยเขาได้บริจาคเงินจากการพากษ์ทั้งหมดให้แก่ผู้ยากไร้[17][18] และเขายังเป็นนักพากย์ในซีรีส์ที่นำกลับมาทำใหม่และออกฉายในโรงภาพยนตร์เรื่อง Emperor Penguins Peng-yi and Som-yi[19][20][21]
ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2555 ซง จุง-กีได้ออกทัวร์ไป 6 ประเทศในทัวร์ที่มีชื่อว่า Song Joong-ki Asia Fan Meeting Tour - THRILL & LOVE ซึ่งเป็นงานพบปะแฟน ๆ ของเขาซึ่งจัดขึ้นในประเทศ ไทย, สิงคโปร์, จีน, ฮ่องกง, ไต้หวันและโซล, เกาหลีใต้[22][23][24][25]
ซง จุง-กีได้เล่นภาพยนตร์แนวแฟนตาซี โรแมนติก ทิลเลอร์เรื่อง A Werewolf Boy ซึ่งฉายครั้งแรกในงาน เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตรอนโต 2012[26] ในการเตรียมตัวเพื่อแสดงในเรื่องนี้เขาได้ดูสารคดีธรรมชาติและสังเกตสุนัขเร่ร่อนบนท้องถนนเพื่อที่จะเลียนแบบการเคลื่อนไหวร่างกายของสัตว์เหล่านั้น[27][28] นอกจากนี้เขายังดู กอลลัม ในเรื่องเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์, ภาพยนตร์ของ แมต รีฟส์ เรื่อง Let Me In และ หนังโรแมนติกแฟนตาซีของ ทิม เบอร์ตัน เรื่อง เอ็ดเวิร์ด มือกรรไกร.[29][30] อีกด้วย ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นภาพยนตร์เริงรมย์ของเกาหลีใต้ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดตลอดกาล โดยมีการซื้อตั๋วเพื่อเข้าชมมากกว่า 7 ล้านใบ[31][1]
The Innocent Man (หรือชื่อ Nice Guy) เป็นครั้งแรกที่ซงเล่นซีรีส์ในบทนำ[32] ความเชื่อมั่นของเขาและบทบาทตัวเอกปฏิลักษณ์ (หรือ แอนตีฮีโร) ได้รับการวิจารณ์อย่างยอดเยี่ยม[33][34][35][36][37][38] The Innocent Man ดึงดูดผู้ชมจนมีเรตติ้งละครสูงและได้รับการวิจารณ์ไปในทางบวก ซึ่งประกอบกับที่เขาได้แสดงภาพยนตร์ที่มียอดรายได้สูงเรื่อง A Werewolf Boy ซึ่งเป็นตัวเชื่อมภาพลักษณ์ของเขาทั้งในจอเงินและจอแก้ว[39][1] และซงยังได้กล่าวว่า เขาอยากจะเป็นเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมมากกว่าที่จะเป็นเพียงแค่นักแสดงที่ได้รับความนิยมเท่านั้น และมีการวางแผนในอนาคตอย่างไม่รีบร้อนในการหาประสบการณ์อย่างต่อเนื่องอย่างที่เขาเป็นมาก่อน[40]
ในปัจจุบัน ซง จุง-กี เข้ารับการเกณฑ์ทหารโดยประจำการที่กรมทหารกองหนุน 102 เมืองชุนช่อน ในวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2556[41][42][43] โดยก่อนที่เข้าจะเกณฑ์ทหาร เขาได้จัดแฟนมีตติ้งในวันที่ 17 สิงหาคม[44] และเขาได้รับการปลดประจำการเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2558[45][46][47]
ผลงาน[แก้]
ภาพยนตร์[แก้]
| ปี | ชื่อเรื่อง | ฮันกึล | บทบาท |
|---|---|---|---|
| 2551 | อำนาจ ราคะ ใครจะหยุดได้ | 쌍화점 | โน-ทัก |
| 2552 | สัมผัสรัก ร้อน ซ่อน เร้น | 오감도 | ยู แจ-ฮยอค |
| The Case of Itaewon Homicide | 이태원 살인사건 | โจ จอง-พิล, เหยื่อฆาตกรรม | |
| 2553 | Hearty Paws 2 | 마음이2 | ดง-วุค |
| 2554 | หนุ่มหน้าใสกับยัยสาวจอมงก | 티끌모아 로맨스 | จี-วุง |
| Rio (animated) | Blu (ให้เสียงภาษาเกาหลี)[48] | ||
| 2555 | Emperor Penguins Peng-yi and Som-yi (ภาพยนตร์สารคดี) | 황제펭귄 펭이와 솜이 | ผู้บรรยาย |
| The Grand Heist | 바람과 함께 사라지다 | จองยัคยอง (นักแสดงรับเชิญ)[49] | |
| วูฟบอย | 늑대소년 | ชอล-ซู |
ละครโทรทัศน์[แก้]
| ปี | ชื่อเรื่อง | ฮันกึล | บทบาท | สถานี |
|---|---|---|---|---|
| 2551 | Love Racing | 러브 레이싱 | YTN | |
| My Precious Child | 내사랑 금지옥엽 | จัง จิน-โฮ | KBS2 | |
| 2552 | Triple | 트리플 | จี พุง-โฮ | MBC |
| คุณหนูจอมวุ่นกับยอดชายนายยาจก | 아가씨를 부탁해 | หัวหน้าคนรับใช้ (นักแสดงรับเชิญ, ตอนที่ 1) | KBS2 | |
| อธิษฐานรัก ณ ปลายหนาว | 크리스마스에 눈이 올까요? | ฮัน จี-ยง | SBS | |
| 2553 | OB/GYN Doctors | 산부인과 | อัน คยอง-อู | SBS |
| บัณฑิตหน้าใส หัวใจว้าวุ่น | 성균관 스캔들 | กู ยง-ฮา | KBS2 | |
| 2554 | Deep Rooted Tree | 뿌리깊은 나무 | อี โด (วัยเยาว์) | SBS |
| 2555 | Nice Guy | 세상 어디에도 없는 착한남자 | คัง มา-รุ | KBS2 |
| 2559 | ชีวิตเพื่อชาติ รักนี้เพื่อเธอ | 태양의 후예 | ยู ชี-จิน | KBS2 |
รายการทางโทรทัศน์[แก้]
| ปี | ชื่อ | ฮันกึล | สถานี | ข้อมูลเพิ่มเติม |
|---|---|---|---|---|
| 2551 | Pretty Boys: A Wrong Situation | 꽃미남 아롱사태 | Mnet | |
| 2552 | Let's Go Dream Team! Season 2 | 출발 드림팀2 | KBS2 | รายการปกิณกะบันเทิง |
| 2552-53 | มิวสิกแบงก์ | 뮤직뱅크 | KBS2 | พิธีกรรายการเพลง |
| 2553-54 | รันนิ่งแมน | 런닝맨 | SBS | รายการปกิณกะบันเทิง |
| 2554 | I'm Real: Song Joong-ki | I'm Real 송중기 | QTV | |
| Everyone Dramatic | 에브리원 드라마틱 | MBC | ||
| Made in U | 메이드 인 유 | jTBC | พิธีกร | |
| 2554-55 | Tears of the Antarctic | 남극의 눈물 | MBC | ผู้บรรยายภาพยนตร์สารคดี |
มิวสิกวีดิโอ[แก้]
| ปี | ศิลปิน | ชื่อเพลง |
|---|---|---|
| 2552 | Tei | "독설" (Poisonous Tongue) |
| 2555 | คิม จง-กุก | "남자가 다 그렇지 뭐" (Men Are All Like That) |
หนังสือ[แก้]
- 2553: "피부미남 프로젝트" (Beautiful Skin Project)
ผลงานเพลง[แก้]
รางวัลและการเข้าชิง[แก้]
| ปี | รางวัล | ประเภท | จากงาน | ผล | อ้างอิง |
|---|---|---|---|---|---|
| 2553 | Style Icon Awards | New Style Icon (TV Actor) | ชนะ | ||
| SBS Entertainment Awards | Best Newcomer in a Variety Show | รันนิ่งแมน | ชนะ | [54] | |
| KBS Drama Awards | Popularity Award | บัณฑิตหน้าใส หัวใจว้าวุ่น | ชนะ | [55] | |
| Best Couple Award กับ ยู อา-อิน | ชนะ | ||||
| 2554 | Asia Model Festival Awards | BBF Fashionista Award | ชนะ | [56] | |
| Barbie and Ken Awards | Ken of the Year | ชนะ | |||
| SBS Drama Awards | Producer's Award | Deep Rooted Tree | ชนะ | [57] | |
| 2555 | Mnet 20's Choice Awards | 20's Male Drama Star | เข้าชิง | [58] | |
| Style Icon Awards | Style Icon | ชนะ | [59] | ||
| 20th Korean Culture and Entertainment Awards | Best Actor in a Drama | The Innocent Man | ชนะ | [60] | |
| เค-ดราม่าสตาร์อวอร์ดส์ ครั้งที่ 1 | นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม | ชนะ | [61] | ||
| KBS Drama Awards | Best Couple Award กับ มุน แช-ว็อน | ชนะ | [62][63] | ||
| Netizens' Award | ชนะ | ||||
| Top Excellence Award, Actor | ชนะ | ||||
| Baeksang Arts Awards | นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม | A Werewolf Boy | เข้าชิง | [64] | |
| Popularity Award (Film) | เข้าชิง | ||||
| Popularity Award (TV) | The Innocent Man | เข้าชิง | |||
| 2559 | 8th Style Icon Asia | Style Icon | – | ชนะ | [65] |
| แพ็กซังอาร์ตส์อวอร์ดส์ ครั้งที่ 52 | นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (โทรทัศน์) | ชีวิตเพื่อชาติ รักนี้เพื่อเธอ | เข้าชิง | [66] | |
| นักแสดงชายยอดนิยม (โทรทัศน์) | ชนะ | ||||
| รางวัลสเปเชียลไอกีอี | – | ชนะ | |||
| โซลอินเตอร์แนชั่นแนลดราม่าอวอร์ดส์ ครั้งที่ 11 | นักแสดงชายชาวเกาหลีดีเด่น | ชีวิตเพื่อชาติ รักนี้เพื่อเธอ | ชนะ | [67] | |
| เอแพนสตาร์อวอร์ดส์ ครั้งที่ 5 | คู่ยอดเยี่ยม กับ ซง ฮเย-กโย | ชนะ | [68] | ||
| นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ประเภทมินิซีรีส์ขนาดสั้น | เข้าชิง | ||||
| รางวัลเอแพนดารายอดเยี่ยม | – | ชนะ | |||
| รางวัลแดซัง | ชีวิตเพื่อชาติ รักนี้เพื่อเธอ | ชนะ |
อ้างอิง[แก้]
- ↑ 1.0 1.1 1.2 Yang, Seo-hee (22 November 2012). "‘Werewolf Boy’ gets real: Actor Song Joong-ki talks about his phenomenal year". Korea JoongAng Daily. สืบค้นเมื่อ 2012-11-22.
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ:0 - ↑ "South Korean Actor Song Joong Ki Is Now The Most Popular Hallyu Star In China, Thanks To 'Descendants of the Sun'". JK News USA. 2016-03-22. สืบค้นเมื่อ 2016-05-29.
- ↑ Oh, Jean (2 February 2010). "SBS gives double dose of medical drama". The Korea Herald.
- ↑ Lee, Hyo-won (15 July 2010). "Canine movie star breaks more hearts in sequel". The Korea Times.
- ↑ Hong, Lucia (2 December 2010). "Song Joong-ki book on facial grooming to go on sale in Taiwan". 10Asia.
- ↑ Chae, Ki-won (16 July 2010). "KBS TV series "Sungkyunkwan Scandal" press conf - Part 1". 10Asia.
- ↑ Chae, Ki-won (18 August 2010). "Song Joong-ki says will suggest Micky bed scene if ratings fall". 10Asia.
- ↑ ซง จุง-กี ถ่ายแฟชั่นที่ออสเตรเลียให้นิตยสาร ELLE Kpopolar 2 มกราคม 2011
- ↑ Hong, Lucia (31 January 2011). "TV special of Song Joong-ki's Japan trip to air next month". 10Asia.
- ↑ เปิดตัวซงจุง-กี (Song Joong Ki) ในมาดของพิธีกรรายการออดิชั่น 'Made in U' popcornfor2 2011-12-01
- ↑ Kim, Heidi (2 June 2011). "Still cuts unveiled for film starring Song Joong-ki, Han Ye-seul". 10Asia.
- ↑ Oh, Mi-jung (2 November 2011). "Song Joong Ki Charms Reporters at ‘Love and Cash’ Press Preview". enewsWorld.
- ↑ Cho, Jae-eun. "Indecisive ‘Penny Pinchers’ banks on wrong formula for love". Korea JoongAng Daily. Text "24 February 2012" ignored (help)
- ↑ Kim, Heidi (31 May 2011). "Song Joong-ki cast in new historical drama". 10Asia.
- ↑ "Song Joong-ki Migrating into Movies with Romantic Comedy". The Chosun Ilbo. 9 November 2011.
- ↑ Ko, Hong-ju (22 December 2011). "Song Joong Ki Donates Profits Earned From Narrating". enewsWorld.
- ↑ Sunwoo, Carla (22 December 2011). "Song Joong-ki to donate to needy". Korea JoongAng Daily.
- ↑ "2012.8.10 Now Playing". Korea JoongAng Daily. 10 August 2012.
- ↑ Kwaak, Je-yup (7 August 2012). "Putting warm, fuzzy spin on Mother Nature". The Korea Times.
- ↑ Ho, Stewart (10 July 2012). "Song Joong Ki Narrates Penguin Documentary Movie". enewsWorld.
- ↑ Suk, Monica (23 April 2012). "Song Joong-ki to hit the road for fan meetings in Asia next week". 10Asia.
- ↑ Ho, Stewart (12 April 2012). "Song Joong Ki To Launch Asia Fan Meet Tour". enewsWorld.
- ↑ Sunwoo, Carla (24 April 2012). "Got Song? Hallyu actor to make six stops throughout Asia for fan meets". Korea JoongAng Daily.
- ↑ Ho, Stewart (23 July 2012). "Song Joong Ki Wraps Asia Fan Meeting Tour in Seoul With 600 Fans". enewsWorld.
- ↑ "Song Joong-ki Hits the Big Time". The Chosun Ilbo. 29 September 2012.
- ↑ Lee, Hye-ji (27 September 2012). "Song Joong-ki "Watched Animal Documentaries to Play Werewolf Boy"". 10Asia.
- ↑ Park, Eun-jee (26 October 2012). "Uncomplicated relationship central to ‘A Werewolf Boy’". Korea JoongAng Daily.
- ↑ Lee, Claire (27 September 2012). "Werewolf tale brings out beast in Song". The Korea Herald.
- ↑ Oh, Mi-jung (17 October 2012). "Song Joong Ki Says He′s Still Thirsty for More Experience as an Actor". enewsWorld.
- ↑ Sunwoo, Carla (19 November 2012). "‘Werewolf Boy’ the top melodrama". Korea JoongAng Daily. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Lee, Gyeong-ho (5 September 2012). "Song Joong Ki doesn’t care if he plays a leading role". Star News. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Lee, Hye-ji (5 September 2012). "Song Joong-ki "I'd be happy to go through growing pains as an actor"". 10Asia. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Sunwoo, Carla (7 September 2012). "Song Joong-ki aims to change it up". Korea JoongAng Daily. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Yoon, Hee-seong (2 November 2012). "INTERVIEW: "The Innocent Man" Song Joong-ki - Part. 2". 10Asia. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ "Reasons Why We Cannot But To Love the 'Innocent Man'". KBS Global. 7 November 2012. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Mun, Wan-sik (16 November 2012). "Song Joong Ki says, “I wouldn’t take my girlfriend’s guilt upon myself”". Star News. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Kim, Soo-jin (16 November 2012). "Song Jong Ki wonders, “My charming point? People say I’m like milk”". Star News. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Lee, Hye-ji (12 November 2012). "“A Werewolf Boy” Tops Local Box Office for 2 Straight Weeks". 10Asia. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Lee, Jin-ho (23 November 2012). "Song Joong Ki Says He Feels He′s Become More Popular but Doesn′t Care". enewsWorld. สืบค้นเมื่อ 2012-11-28.
- ↑ Lee, Hye-ji (1 August 2013). "Song Joong-ki to Enter Military on August 27". 10Asia. สืบค้นเมื่อ 2013-08-01.
- ↑ "Actor Song Joong-ki to Join Army Late This Month". The Chosun Ilbo. 2 August 2013. สืบค้นเมื่อ 2013-08-03.
- ↑ Lee, Sun-min (28 August 2013). "Song Joong-ki says goodbye to fans". Korea JoongAng Daily. สืบค้นเมื่อ 2013-08-28.
- ↑ Kang, Jung-yeon (19 August 2013). "Song Joong-ki Holds Last Fan Meeting Before Joining Army". 10Asia. สืบค้นเมื่อ 2013-08-19.
- ↑ "Song Joong-ki returns from military duty". The Korea Times. 26 May 2015. สืบค้นเมื่อ 2015-05-27.
- ↑ "Song Joong-ki Completes Military Service". The Chosun Ilbo. 27 May 2015. สืบค้นเมื่อ 2015-05-27.
- ↑ Jin, Min-ji (27 May 2015). "Song discharged from Army". Korea JoongAng Daily. สืบค้นเมื่อ 2015-05-27.
- ↑ Ki Sun-min, Sung So-young (15 July 2011). "With rise of 3-D, films with subtitles lose out to dubbing". Korea JoongAng Daily.
- ↑ Oh, Mi-jung (29 August 2012). "Song Joong Ki Makes Surprise Appearance in the Ending Credits of ‘Gone With the Wind’". enewsWorld.
- ↑ Ho, Stewart (29 October 2012). "Song Joong Ki Sings for ‘Nice Guy’ OST". enewsWorld.
- ↑ Sunwoo, Carla (30 October 2012). "Song Joong-ki sings on his drama’s soundtrack". Korea JoongAng Daily.
- ↑ Lee, Hye-ji (29 October 2012). "Song Joong-ki to Lend Voice for KBS “The Innocent Man” Soundtrack". 10Asia.
- ↑ Jeon, Su-mi (9 November 2012). "Song Joong Ki Releases Photos of Himself Singing for ′Nice Guy′". enewsWorld.
- ↑ Hong, Lucia (31 December 2010). "Kang Ho-dong scores grand prize at SBS Entertainment Awards". 10Asia. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Cho, Bum-ja (3 January 2010). "Jang Hyuk scores top prize at KBS Drama Awards". 10Asia. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Kim, Jessica (2 January 2011). "Song Joong-ki at Asia Music Festival Awards". 10Asia. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Kim, Jesssica (2 January 2012). "Han Suk-kyu reclaims glory at SBS Drama Awards". 10Asia. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Lee, Nancy (28 June 2012). "20′s Choice Awards: Who Won at the 20’s Choice Awards?". enewsWorld. สืบค้นเมื่อ 2012-06-29.
- ↑ Lee, Nancy (25 October 2012). "LIVE BLOG/LIVE STREAM: Style Icon Awards 2012 Part II". enewsWorld. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Lee, Han-hyung (6 December 2012). "송중기 ‘수트도 멋스럽게 소화’". Newsen (ใน Korean). สืบค้นเมื่อ 2012-12-09.
- ↑ Shim, Na-ra (8 December 2012). "'K드라마어워즈' 송중기, 최우수남자연기상...함성 커지자 "오빠 얘기하잖니"". TV Report (ใน Korean). สืบค้นเมื่อ 2012-12-09.
- ↑ Kim, Sung-hee (20 December 2012). "KBS연기대상, 베스트커플 후보 발표..주원·박기웅 '男男커플'". Star News (ใน Korean). สืบค้นเมื่อ 2012-12-21.
- ↑ Jun, Ji-young (2 January 2013). "2012 KBS Drama Awards". KBS Global. สืบค้นเมื่อ 2013-01-07.
- ↑ Hicap, Jonathan M. (5 April 2013). "49th Baeksang Arts Awards nominees revealed". Manila Bulletin. สืบค้นเมื่อ 2013-04-11.
- ↑ "'SIA' 스타일아이콘 10인 공개, 'G-Dragon, 리이펑, 박보검, 소녀시대, 송승헌, 송중기, 유아인, 이정재, 이하늬, 하지원'". Star Daily News.
- ↑ "“Dongju” And “Descendants of the Sun” Take Home Grand Prizes At The 52nd Baeksang Arts Awards + Full List Of Winners". Soompi. June 3, 2016.
- ↑ "Winners Of The 11th Seoul Drama Awards 2016 Announced". Soompi.
- ↑ "Winners Announced For The 2016 APAN Star Awards". Soompi.
ข้อมูลเพิ่มเติม[แก้]
- Song Joong-ki at Cyworld (เกาหลี)
- Song Joong-ki at SidusHQ (เกาหลี)
| ||||||||||||||||||||
หมวดหมู่:
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2528
- บุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่
- บุคคลจากแทจ็อน
- นักแสดงเกาหลีใต้
- https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%8B%E0%B8%87_%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%87-%E0%B8%81%E0%B8%B5
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น